1. กลัวขาดทุน กลัวราคาตกแล้วไม่ได้กำไร
หลายคนลงทุนก็อยากจะได้ผลตอบแทน หรือกำไรกลับคืนมาเสมอ แต่หากสิ่งที่ลงทุนไปแล้วไม่ได้กำไรกลับมา ย่อมผิดหวังเป็นธรรมดา เพราะไม่ว่าจะลงทุนกับอะไร ก็ถือว่ามีความเสี่ยง รวมถึงทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนอื่น ๆ หลักการในการลงทุนทองคำมีง่าย ๆ แค่ซื้อถูก ขายแพง
แต่การลงทุนในทองก็ต้องเข้าใจก่อนว่า ราคาทองมีการผันผวนทุกวัน มีการปรับขึ้นลง บางวันอาจปรับขึ้นลง 3-4 ครั้ง หรือครั้งเดียวก็มี เพราะฉะนั้นการที่รู้แนวโน้มราคาทอง จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองให้ขึ้นลงนั้น ได้แก่ ค่าเงินดอลลาร์, ค่าเงินบาท, เศรษฐกิจ, สงคราม, การเมือง, น้ำมัน, หุ้น เป็นต้น ผู้ลงทุนจึงควรติดตามข่าวสาร และเช็คราคาทอง ย้อนดูสถิติราคา เพื่อนำมาวิเคราะห์ได้
มีข้อแนะนำคือ ควรลงทุนในทองคำแท่งมากกว่าทองรูปพรรณ เพราะเมื่อซื้อ หรือขาย จะเสียค่ากำเหน็จต่ำกว่า โดยเน้นเก็บเป็นสินทรัพย์ หรือเก็งกำไรครับ
2. กลัวบริษัทที่ให้บริการจะปิดตัวลง
ข่าวการหลอกลวงให้ลงทุน หรือมิจฉาชีพในวงการการลงทุนก็ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง และได้สร้างความกังวลให้นักลงทุนว่าจะโดนหลอก รวมถึง กลัวว่า บริษัท หรือร้านทองจะบริหารผิดพลาดจนต้องปิดให้บริการ
ซึ่งตรงส่วนนี้ ขอแนะนำว่า การจะลงทุนอะไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษารายละเอียดให้ดี ทั้งด้านสินทรัพย์ที่เรากำลังจะลงทุน รวมถึงข้อมูลบริษัท เพราะช่องทางการลงทุนในทองคำค่อนข้างหลากหลาย ทั้งซื้อขายเองผ่านระบบเทรด, ซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ และซื้อขายผ่านร้านทองโดยตรง
3. กลัวเสียโอกาสในการทำกำไรจากสินทรัพย์อื่น
ในปัจจุบันมีทางเลือกในการลงทุนมากมาย ทั้งอสังหาริมทรัพย์ หุ้น ที่ดิน และบางคนอาจมองว่า การลงทุนในทองคำ เป็นการลงทุนที่เสียเวลา เพราะการจะได้กำไรแต่ละครั้ง ต้องรอให้ราคาสูงกว่าตอนที่ซื้อมาค่อนข้างเยอะ หรือบางคนมองว่า เหมาะกับการเก็บเป็นสมบัติ เก็บเป็นมรดกมากกว่าจะเป็นการเก็บเพื่อเก็งกำไร แต่อย่าลืมว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และกระจายความเสี่ยงของสินทรัพย์อื่นได้ดี อาจเก็บสะสมเพื่อเป็นทุนสำรองเงินก็ย่อมได้ เพราะค่าเงินกับทองคำ มักจะสวนทางกัน ดังนั้น ไม่ว่าจะลงทุนอะไร อย่าลืมกระจายความเสี่ยง ถือครองสินทรัพย์ทั้งที่มีความเสี่ยงต่ำไปสูงควบคู่กันไปนะครับ
